สัมมาทิฏฐิที่เป็นอนาสวะ
[258] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ สัมมาทิฏฐิที่เป็นอริยะ ที่เป็น
อนาสวะเป็นโลกุตระ เป็นองค์มรรค เป็นไฉน ? ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ปัญญา 1
ปัญญินทรีย์ 1 ปัญญาพละ 1 ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์ 1 ความเห็นชอบ 1
องค์แห่งมรรค 1 ของภิกษุผู้มีจิตไกลข้าศึก มีจิตหาอาสวะมิได้ พรั่งพร้อม
ด้วยอริยมรรค เจริญอริยมรรคอยู่นี้แล คือ สัมมาทิฏฐิที่เป็นอริยะเป็น
อนาสวะ เป็นโลกุตระ เป็นองค์มรรค.
ภิกษุนั้นย่อมพยายามเพื่อละมิจฉาทิฏฐิ เพื่อบรรลุสัมมาทิฏฐิความ
พยายามของเธอนั้น เป็น สัมมาวายามะ.
สัมมาสติ
เธอมีสติละมิจฉาทิฏฐิได้ มีสติบรรลุสัมมาทิฏฐิอยู่ สติของเธอนั้น
เป็น สัมมาสติ.
ธรรมะที่ห้อมล้อมสัมมาทิฏฐิ
ด้วยอาการนี้ ธรรม 3 ประการนี้ คือ สัมมาทิฏฐิ สัมมาวายามะ
สัมมาสติ ย่อมห้อมล้อม เป็นไปตามสัมมาทิฏฐิของภิกษุนั้น.
สัมมาทิฏฐิเป็นประธานอย่างไร ?
[259] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บรรดาองค์ทั้ง 7 นั้น สัมมาทิฏฐิ
ย่อมเป็นประธาน ก็สัมมาทิฏฐิย่อมเป็นประธานอย่างไร ? คือ ภิกษุรู้จัก
มิจฉาสังกัปปะว่าเป็นมิจฉาสังกัปปะ รู้จักสัมมาสังกัปปะว่าเป็น สัมมา-
สังกัปปะ ความรู้ของเธอนั้น เป็นสัมมาทิฏฐิ.
มิจฉาสังกัปปะ
[260] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็มิจฉาสังกัปปะเป็นไฉน ? ดุก่อน
ภิกษุทั้งหลาย ความดำริในกาม 1 ดำริในพยาบาท 1 ดำริในความ
เบียดเบียน 1 นี้คือมิจฉาสังกัปปะ.
สัมมาสังกัปปะ 2
[261] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็สัมมาสังกัปปะเป็นไฉน ? ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวสัมมาสังกัปปะไว้ 2 อย่าง คือ สัมมาสังกัปปะ
ที่ยังเป็นสาสวะ เป็นส่วนแห่งบุญ ให้ผลแก่ขันธ์อย่าง 1 สัมมาสัง-
กัปปะของพระอริยะที่เป็นอนาสวะ เป็นโลกุตระเป็นองค์มรรคอย่าง 1.
สัมมาสังกัปปะที่เป็นสาสวะ
[262] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ สัมมาสังกัปปะที่ยังเป็นสาสวะ
เป็นส่วนแห่งบุญ ให้ผลแก่ขันธ์เป็นไฉน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความดำริ
ในเนกขัมมะ 1 ดำริในความไม่พยาบาท 1 ดำริในความไม่เบียดเบียน 1
นี้คือสัมมาสังกัปปะที่ยังเป็นสาสวะ เป็นส่วนแห่งบุญ ให้ผลแก่ขันธ์.
สัมมาสังกัปปะที่เป็นอนาสวะ
[263] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็สัมมาสังกัปปะที่เป็นอริยะที่เป็น
อนาสวะเป็นโลกุตระ เป็นองค์มรรค เป็นไฉน ? ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความ
ตรึก 1 ความวิตก 1 ความดำริ 1 ความแน่ว 1 ความแน่ 1 ความปักใจ 1
วจีสังขาร 1 ของภิกษุผู้มีจิตไกลข้าศึก มีจิตหาอาสวะมิได้ พรั่งพร้อมด้วย
อริยมรรค เจริญอริยมรรคอยู่ นี้แล สัมมาสังกัปปะที่เป็นอริยะเป็น
อนาสวะ เป็นโลกุตระเป็นองค์มรรค.